Saturday, June 13, 2009

แนะวิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ใหม่ 2009


ตอนนี้กำลังระบาดเลยครับ ไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ใหม่ H1N1 น่ากลัวมากครับ ตอนนี้องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมายกระดับสถานการณ์การเฝ้าระวังเป็นระดับ 6 แล้วครับ คือหมายถึง ระดับ 6: ระยะระบาดไปทั่วโลก (pandemic phase) มีการกระจายโรคแบบ "คน-สู่-คน" อย่างน้อยอีก 1 ประเทศในพื้นที่ต่างเขต (region) ตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนด (มันแพร่ทางอากาศเลยไปเร็วมากเลย ใครต้องการดูประกาศการยกระดับ ดูตรงนี้

ลักษณะอาการไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009


อาการคล้ายกันกับอาการของคนที่เป็นหวัดปกติ และมีอาการต่อไปนี้คือ มีไข้ ท้องเสีย เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดศีรษะ หนาว และ ไม่มีเรี่ยวแรง อ่อนล้า ร่วมด้วย ในบางคนมีอาการท้องเสียร่วมกับอาเจียน และในอดีตมีรายงานว่าผู้ป่วยหลายคนมีอาการรุนแรงถึงขั้นเป็นปอดบวม และ ระบบหายใจล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด

เรามาดูกันครับสถิติผู้ติดเชื้อกันทั่วโลกครับ


ที่มา: กระทรวงสาธารณสุข

สำหรับบ้านเราตอนนี้กระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาแนะนำวิธีป้องกันครับ โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มครับ คือ ประชาชนทั่วไป นักเรียน และอาสาสมัครสาธารณสุข(อสม.)

โดยในกลุ่มประชาชนทั่วไป ควรดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มภูมิต้านทานโรค รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ สร้างสุขนิสัยในการป้องกันโรค เน้นกินของร้อน ใช้ช้อนกลาง หมั่นล้างมือ และใช้หน้ากากอนามัยเมื่อมีอาการไอ ผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศหากมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก ปวดเมื่อยตามตัว ควรรีบไปพบแพทย์ หากพบผู้ใกล้ชิดมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เพิ่มเดินทางกลับมาจากต่างประเทศภายใน 7 วัน ควรแนะนำไปพบแพทย์ หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุข

กลุ่มโรงเรียนและสถานศึกษา เมื่อเปิดภาคเรียนควรสำรวจนักเรียนเป็นประจำทุกวัน สังเกตอาการป่วยของนักเรียน ดูแลนักเรียนที่ป่วยอย่างถูกวิธี สอนและให้คำแนะนำวิธีรักษาสุขภาพและป้องกันโรคแก่นักเรียน จัดสิ่งแวดล้อมและอำนวยความสะดวกเพื่อสนับสนุนการป้องกันโรคในโรงเรียน ตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ

และกลุ่ม อสม.ขอให้เฝ้าระวัง สังเกตประชาชนในหมู่บ้าน หรือชุมชนที่รับผิดชอบ หากพบผู้ที่มาอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ ควรแนะนำให้ไปพบแพทย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ ภายใน 7 วัน และรายงานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เผยแพร่ความรู้และให้คำแนะนำ เพื่อการส่งเสริมสุขภาพและการป้องกันโรคตามแนวทางของกระทรวงสาธารณุข

ที่มา: http://www.ryt9.com/s/iq01/570831/

No comments:

Post a Comment